ดาวโจนส์บวกกว่า 100 จุด ขานรับราคาน้ำมันพุ่ง,เก็งคองเกรสไฟเขียวมาตรการเยียวยาพิษโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 23, 2020 21:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อมาตรการเยียวยาธุรกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้

ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,630.45 จุด บวก 154.63 จุด หรือ 0.66%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 21% เหนือระดับ 16 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย และการคาดการณ์ที่ว่าผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดกำลังการผลิต ท่ามกลางการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

นายฮอสเซน ซาลามี หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า อิหร่านจะทำลายเรือรบสหรัฐ หากสหรัฐเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย

"ผมสั่งให้กองเรือของเราทำลายกองกำลังก่อการร้ายอเมริกันในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของกองทัพอิหร่าน หรือเรือพาณิชย์ของอิหร่าน โดยความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซียถือเป็นยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของอิหร่าน" นายซาลามีกล่าว

นายซาลามีขู่ดังกล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุวานนี้ว่า เขาได้สั่งกองทัพเรือสหรัฐให้ทำการยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากมีท่าทีก่อกวนเรือสหรัฐ

ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า เรือของ IRGC ได้แสดงท่าทีที่ยั่วยุและอันตราย ขณะขับเข้าใกล้เรือยามฝั่งของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะจัดการประชุมในวันนี้เพื่อลงมติต่อร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

คาดกันว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นในวันนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาชิกทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน

หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามเป็นกฎหมาย

ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นร่างกฎหมายฉบับที่ 4 ที่มีการพิจารณาในสภาคองเกรส ซึ่งหากรวมวงเงินทั้งหมดจะสูงถึงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หลังทรุดตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3 ล้านราย

จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรวม 5 สัปดาห์อยู่ที่ระดับ 26.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงิน

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 15.98 ล้านราย

การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ