ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 300 จุด ขานรับการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อมาตรการเยียวยาธุรกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้
ณ เวลา 23.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,820.98 จุด บวก 345.16 จุด หรือ 1.47%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานเกือบ 30% เหนือระดับ 17 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย และการคาดการณ์ที่ว่าผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดกำลังการผลิต ท่ามกลางการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
นายฮอสเซน ซาลามี หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า อิหร่านจะทำลายเรือรบสหรัฐ หากสหรัฐเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย
"ผมสั่งให้กองเรือของเราทำลายกองกำลังก่อการร้ายอเมริกันในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของกองทัพอิหร่าน หรือเรือพาณิชย์ของอิหร่าน โดยความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซียถือเป็นยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของอิหร่าน" นายซาลามีกล่าว
นายซาลามีขู่ดังกล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุวานนี้ว่า เขาได้สั่งกองทัพเรือสหรัฐให้ทำการยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากมีท่าทีก่อกวนเรือสหรัฐ
ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า เรือของ IRGC ได้แสดงท่าทีที่ยั่วยุและอันตราย ขณะขับเข้าใกล้เรือยามฝั่งของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะจัดการประชุมในวันนี้เพื่อลงมติต่อร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
คาดกันว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นในวันนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาชิกทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามเป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นร่างกฎหมายฉบับที่ 4 ที่มีการพิจารณาในสภาคองเกรส ซึ่งหากรวมวงเงินทั้งหมดจะสูงถึงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หลังทรุดตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3 ล้านราย
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรวม 5 สัปดาห์อยู่ที่ระดับ 26.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงิน
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 15.98 ล้านราย
การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก