ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสัญญาณบ่งชี้ว่า กลุ่มก่อสร้างบ้านของอังกฤษกำลังวางแผนที่จะเริ่มการดำเนินงานอีกครั้ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,826.61 จุด เพิ่มขึ้น 55.98 จุด หรือ +0.97%
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี บวก 2.20% และหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 3.73%
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ พุ่ง 9.4% และหุ้น Vistry พุ่งขึ้น 11.5% หลังเปิดเผยแผนการที่จะเริ่มงานก่อสร้างบ้านในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหราชอาณาจักร ทรุดตัวลงสู่ระดับ 12.9 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 36.0 ในเดือนมี.ค.ก็ตาม
ดัชนี PMI ที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในภาวะหดตัว โดยถูกกดดันจากการที่กิจกรรมในภาคธุรกิจหยุดชะงักลง ขณะที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่ รวมทั้งความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ