ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานขึ้นเกือบ 300 จุด ทะลุเส้น 24,000 จุด ขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
ณ เวลา 21.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,063.32 จุด บวก 288.05 จุด หรือ 1.21%
หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงดีดตัวขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันทรุดตัวลงในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 25% หลุดระดับ 13 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
ราคาน้ำมันถูกกดดันจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิ่งลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะใช้กลยุทธ์เปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
นายคูโอโมกล่าวว่า จะมีการเปิดภาคการก่อสร้างและการผลิตในเฟสแรก ส่วนเฟสสองจะมีการประเมินธุรกิจเป็นรายกรณี โดยขึ้นอยู่กับความสำคัญของธุรกิจดังกล่าว
นายคูโอโมระบุว่า แต่ละเฟสจะห่างกัน 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง และสร้างความมั่นใจว่าอัตราผู้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ติดเชื้อจะไม่เพิ่มขึ้น
นายคูโอโมยังเปิดเผยว่า จำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ลดลงเป็นเวลา 14 วัน และจำนวนผู้เสียชีวิตในนิวยอร์กแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
นอกจากนี้ รัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า
นายเควิน แฮสเซทท์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจหดตัวลงรุนแรงที่สุดในไตรมาส 2 นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายแฮสเซทท์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงในไตรมาสแรก และจะรุนแรงมากขึ้นในไตรมาส 2 โดยอาจหดตัวลงถึง 20-30%
ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว 5.3% ในไตรมาสแรก และ 29% ในไตรมาส 2
นายแฮสเซทท์ยังคาดว่า อัตราการว่างงานในเดือนเม.ย.จะพุ่งแตะระดับ 16-17%
อย่างไรก็ดี นายแฮสเซทท์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่รัฐต่างๆเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%