ดาวโจนส์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 600 จุด ขานรับคืบหน้าผลิตยารักษาโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 29, 2020 23:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 600 จุด ขานรับข่าวดีจากบริษัท Gilead Sciences ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19

ณ เวลา 23.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,708.52 จุด บวก 606.97 จุด หรือ 2.52%

ทั้งนี้ บริษัท Gilead Sciences แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19

Gilead ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น

Gilead ยังเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 50% ที่ได้รับยา remdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 50% ที่ได้รับยา remdesivir สามารถออกจากโรงพยาบาลภายในเวลา 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ราคาหุ้นอัลฟาเบทพุ่งขึ้น 8.7% หลังรายงานตัวเลขรายได้ที่ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ข่าวดีจากบริษัท Gilead และการพุ่งขึ้นของหุ้นอัลฟาเบทได้ช่วยบดบังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐในวันนี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 4.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 3.5% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ติดลบ นับตั้งแต่ที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.1% ในไตรมาส 1/2557 และเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจหดตัว 8.4% ในไตรมาส 4/2551 ซึ่งขณะนั้นสหรัฐกำลังเผชิญวิกฤตการเงิน

การใช้จ่ายของผู้บริโภค, การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ซึ่งไม่ใช่ที่พักอาศัย, การส่งออก และสินค้าคงคลัง ล้วนเป็นปัจจัยที่ฉุดเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรก อย่างไรก็ดี การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ซึ่งเป็นที่พักอาศัย และการใช้จ่ายของรัฐบาลได้ช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว

ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคทรุดตัวลง 7.6% ในไตรมาสแรก ขณะที่การใช้จ่ายด้านสินค้าคงทนร่วงลง 16.1% และการใช้จ่ายในภาคบริการดิ่งลง 10.2% ส่วนการส่งออกปรับตัวลง 8.7% และการนำเข้าลดลง 15.3%

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ในการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2563 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 8.25% ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ทั้งในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว หลังจากเติบโต 2.0% ในไตรมาส 2 และ 3.1% ในไตรมาส 1

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา

นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% หลังจากที่เฟดได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด ซึ่งถือเป็นการดำเนินการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟดเคยดำเนินการมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ