ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 และการเปิดเผยผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.75% ปิดที่ 347.06 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,671.11 จุด เพิ่มขึ้น 101.32 จุด หรือ +2.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,107.74 จุด เพิ่มขึ้น 312.11 จุด หรือ +2.89% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,115.25 จุด เพิ่มขึ้น 156.75 จุด หรือ +2.63%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัท Gilead Sciences แถลงว่าได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัทในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
หุ้นแอร์บัสของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 10% แม้เปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสร่วงลง โดยหุ้นแอร์บัสพุ่งแตะระดับสูงสุดของวันหลังโบอิ้งของสหรัฐซึ่งเป็นคู่แข่งรายงานผลขาดทุนรายไตรมาส
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบหลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงเกินคาด โดยหุ้นบีพี บวก 3.54%, หุ้นเชลล์ เพิ่มขึ้น 3.70% และ หุ้นโททาล ปรับตัวขึ้น 3.13%
ส่วนหุ้นกลุ่มรถยนต์ได้แรงหนุน หลังบริษัทเดมเลอร์ของเยอรมนีคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในปีนี้ และโฟล์คสวาเกนคาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้เช่นกันในปีนี้ โดยหุ้นเดมเลอร์ พุ่งขึ้น 6.68% และหุ้นโฟลค์สวาเกน พุ่งขึ้น 5.79%
หุ้นกลุ่มธนาคารหนุนตลาดขึ้นด้วย นำโดยหุ้นบาร์เคลย์ส และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) หลังสแตนชาร์ตคาดว่าตลาดหลักๆ ของธนาคารจะนำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตโควิด-19 ภายในปีนี้ ขณะที่ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจของบาร์เคลย์สได้ช่วยหนุนผลกำไร
หุ้นเอเอ็มเอส ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเซนเซอร์ของออสเตรีย พุ่งขึ้น 25.02% หลังบริษัทคาดว่า ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ในไตรมาส 2 จะเป็นไปอย่างจำกัด