ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลงกว่า 400 จุดในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนพ.ค. เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หลังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง แอมะซอน และ แอปเปิ้ล ออกโรงเตือนถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้จีนจากกรณีการรับมือกับการแพร่ระบาด
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลบ 419.70 จุด หรือ 1.72% สู่ระดับ 23,926.02 จุด
วานนี้ แอมะซอนได้ออกมาเปิดเผยว่า ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนา เช่น การตรวจโรคให้กับพนักงาน ทำให้บริษัทมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ด้านแอปเปิ้ลปฏิเสธที่จะให้แนวโน้มการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการสำหรับไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนที่บริษัทกำลังเผชิญ
ขณะเดียวกัน ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์อาจพิจารณาเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เนื่องจากไม่พอใจทางการจีนในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากมาร์กิต ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.