ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน ปิดทำการวันแรงงาน ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากแนวโน้มที่จะเกิดความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐอาจสั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอของวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.78% ปิดที่ 337.39 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,763.06 จุด ลดลง 138.15 จุด หรือ -2.34%
ตลาดหุ้นยุโรปรับตัวลง หลังนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก
หุ้นกลุ่มการเดินทางถ่วงตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง โดยหุ้น IAG ที่เป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วง 3.11% หลังเปิดเผยแผนการปรับลดพนักงาน ซึ่งรวมถึงนักบินราว 25% เพื่อรับมือกับการเดินทางทางอากาศที่ลดลงท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นอีซีเจ็ต ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ร่วงลง 5.84% โดยถูกกดดันจากข่าวที่ว่า สายการบินไรอันแอร์ของไอร์แลนด์ซึ่งเป็นคู่แข่งเปิดเผยว่า จะระงับการให้บริการเที่ยวบินมากกว่า 99% ไปจนถึงเดือนก.ค. โดยหุ้นไรอันแอร์ ร่วง 6.40%