ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังสหรัฐขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้าจีนเพื่อตอบโต้กรณีที่จีนเป็นต้นตอที่ทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,753.78 จุด ลดลง 9.28 จุด หรือ -0.16%
ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันจากการที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อตอบโต้ที่จีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า มีหลักฐานจำนวนมากที่บ่งชี้ว่า ไวรัสโควิด-19 เกิดจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีน
หุ้นโรลส์ รอยซ์ ร่วงลง 6.9% หลังมีข่าวว่า บริษัทจะปรับลดพนักงานลง 15% เนื่องจากรายได้ของบริษัทหดตัวลงจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าที่ใช้เครื่องยนต์อากาศยานของบริษัท อาทิ แอร์บัส และโบอิ้ง ต้องปรับลดการผลิตเครื่องบิน ขณะที่สายการบินต่างๆ ต้องระงับการบิน ซึ่งส่งผลให้บริษัทขาดรายได้จากค่าใช้เครื่องยนต์อากาศยานตามชั่วโมงการบิน
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการยังคงปรับตัวลงอย่างหนัก โดยหุ้นอีซีเจ็ต ร่วง 7.22%, หุ้น IAG ร่วงลง 5.16% และหุ้นอินเตอร์คอนติเนนทัล โฮเทลส์ กรุ๊ป ลดลง 4.21%