ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ รวมทั้งความคืบหน้าในการผลิตยาและวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน
ณ เวลา 20.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 300 จุด หรือ 1.27% สู่ระดับ 23,871 จุด
ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในคนในสหรัฐแล้ว
ทั้งนี้ ไฟเซอร์ได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี โดยผู้เข้าร่วมโครงการทดลองดังกล่าวในสหรัฐจะได้รับการฉีดวัคซีน BNT162 หลังจากที่เริ่มมีการทดลองวัคซีนดังกล่าวในคนในเยอรมนีในเดือนที่แล้ว
ไฟเซอร์ระบุว่า ผู้เข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีนดังกล่าวอยู่ในวัย 18-55 ปี ก่อนที่จะรวมผู้ที่มีวัยสูงกว่าเข้าร่วมโครงการดังกล่าวในระยะต่อไป
ไฟเซอร์คาดการณ์ว่า บริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนหลายล้านโดสภายในปลายปีนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทหลายแห่งทั่วโลกกำลังทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมแล้วกว่า 100 ตัว และมีวัคซีนอย่างน้อย 8 ตัวที่กำลังอยู่ในขั้นทดลองกับมนุษย์
ทางด้านบริษัท Gilead Sciences แถลงว่า ทางบริษัทได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
Gilead ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น
Gilead ยังเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 50% ที่ได้รับยา remdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 50% ที่ได้รับยา remdesivir สามารถออกจากโรงพยาบาลภายในเวลา 2 สัปดาห์
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานที่นักลงทุนส่งเข้ามาในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก
หุ้นกลุ่มสายการบินดิ่งลงวานนี้ หลังจากบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เทขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในสายการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่หุ้นเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ร่วงลง 2.38% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสูงเกือบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก