ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพที่พุ่งขึ้นตามหุ้นแอสตราเซเนกาที่ปรับตัวขึ้น 2.48% หลังสหรัฐอนุมัติการใช้ยารักษาโรคเบาหวานของแอสตราเซเนกาเพื่อรักษาอาการหัวใจล้มเหลว แต่ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,853.76 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ +0.07%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว
แต่ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 และกังวลกับความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้จีนแสดงความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมัน, ธนาคาร และการเดินทาง สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาดด้วย
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่า BoE จะตรึงดอกเบี้ยหลังปรับลดสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา