ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากค่าสเปรดระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 10 ปีขยายกว้างขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่สูงเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,875.89 จุด เพิ่มขึ้น 211.25 จุด หรือ +0.89% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,881.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.77 จุด หรือ +1.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,979.66 จุด เพิ่มขึ้น 125.27 จุด หรือ +1.41%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากค่าสเปรดระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 10 ปีขยายกว้างขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจในภาคธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.24% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทะยานขึ้น 4.05% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส บวก 1.04% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.5%
หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.88% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 4.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.58%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.34% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.03% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.5% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.7% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.58% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 0.53%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 11% โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
หุ้น Moderna พุ่งขึ้น 8.66% หลังจากทางบริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเฟส 2 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะร่วงลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%