ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังถดถอยจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,935.98 จุด เพิ่มขึ้น 82.22 จุด หรือ +1.40%
ตลาดปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยยอดส่งออกเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.5% สวนทางการคาดการณ์ของตลาดทึ่คาดว่า ยอดส่งออกของจีนจะร่วงลงอย่างรุนแรง ขณะที่โรงงานต่างๆ ได้เริ่มการผลิตหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างจำกัดในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลอังกฤษรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดช้าเกินไปจนทำมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 30,000 คนแล้วในอังกฤษ
ตลาดปรับตัวขึ้น แม้ธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.1% ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจของอังกฤษอาจหดตัวลง 14% ในปีนี้จากผลกระทบของโรคระบาด
หุ้นกลุ่มธนาคาร, เหมืองแร่, น้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขานรับข้อมูลการส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน
หุ้นเอชเอสบีซี, บาร์เคลย์ส, ลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป และรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ปรับตัวขึ้นตามกัน หลังธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยผลทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) บ่งชี้ว่า ธนาคารชั้นนำดังกล่าวมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะยังคงปล่อยกู้ต่อไปได้ แม้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็ตาม
หุ้นเชลล์ บวก 2.55% และหุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 0.7%