ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลในประเทศต่างๆ
ณ เวลา 20.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 114 จุด หรือ 0.47% สู่ระดับ 24,238 จุด
หุ้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง ได้ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลง 0.45% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปอาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า หลายประเทศมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน, เกาหลีใต้ และเยอรมนีได้ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.
ดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน รวมทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน และห้องพักโรงแรม โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายปี