ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับบริษัทจดทะเบียนในยุโรปเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด แต่นักลงทุนก็ยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 หลังจากประเทศต่างๆ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.26% ปิดที่ 340.57 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,994.77 จุด เพิ่มขึ้น 55.04 จุด หรือ +0.93% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,819.50 จุด ลดลง 5.49 จุด หรือ -0.05% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,472.50 จุด ลดลง 17.71 จุด หรือ -0.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม, กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าวท่ามกลางภาวะที่ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หุ้นโวดาโฟนของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.9% หลังเปิดเผยผลประกอบการทั้งปีเพิ่มขึ้นตามคาด และยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
บรรดานักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากรวมถึงจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า การยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปอาจจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ หลายประเทศ รวมถึง เยอรมนี, จีน และเกาหลีใต้ เผชิญกับการแพร่ระบาดรอบสอง หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์