ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยบวกขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทโวดาโฟนและบริษัทมอร์ริสันส์ ซึ่งช่วยหนุนตลาดขึ้น แม้มีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,994.77 จุด เพิ่มขึ้น 55.04 จุด หรือ +0.93%
ตลาดปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทโวดาโฟน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก โดยหุ้นโวดาโฟนปิดพุ่งขึ้น 8.3% หลังเปิดเผยผลประกอบการตามคาด และยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
หุ้นมอร์ริสันส์ ซึ่งดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต ปิดพุ่งขึ้น 3.4% หลังรายงานยอดขายเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หุ้นคิงฟิสเชอร์ ซึ่งทำธุรกิจด้านการปรับปรุงที่อยู่อาศัย พุ่งขึ้น 9.6% หลังเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทกลับมาเป็นบวกในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เนื่องจากร้านค้าของบริษัทเปิดทำการอีกครั้งหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลกับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 เนื่องจากเยอรมนีและเกาหลีใต้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษในวันพุธนี้ ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้จะถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 300 ปี