ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 300 จุด หลังสหรัฐเผยตกงานกว่า 36 ล้านคนจากพิษโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 14, 2020 20:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดิ่งลงในคืนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ณ เวลา 19.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 333 จุด หรือ 1.44% สู่ระดับ 22,833 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.981 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นเกือบ 36.5 ล้านราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรในวัยทำงานทั้งหมดของสหรัฐ นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้ถือว่าต่ำที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจำนวน 3.176 ล้านราย โดยตัวเลขดังกล่าวเริ่มชะลอตัวลง นับตั้งแต่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานบ่งชี้ถึงผลกระทบที่ตลาดแรงงานสหรัฐได้รับจากการที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐต้องปิดตัวลงอันเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นเร็วเพียงใด จะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน จากการที่นักลงทุนรายใหญ่หลายรายออกมาตั้งคำถามถึงภาวะฟองสบู่ในตลาด

ทั้งนี้ นายเดวิด เทปเปอร์ ซึ่งเป็นนักลงทุนประเภทมหาเศรษฐีพันล้าน และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแอปปาลูซา แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีมูลค่าสูงเกินความเป็นจริงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

นายเทปเปอร์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นมีมูลค่าสูงเกินจริงมากเป็นอันดับสองเท่าที่ผมเคยเห็นมา ซึ่งเป็นรองเพียงในปี 1999 โดยตลาดมีมูลค่าสูงมาก ขณะที่เฟดได้อัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าตลาด"

ทั้งนี้ ค่า Forward P/E ratio อิงตามการประเมินสำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นเหนือระดับ 20 เท่า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002

ทางด้านนายสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ ซึ่งเป็นผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ กล่าวแสดงความเห็นว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นมีมูลค่าเกินความเป็นจริงมากเป็นประวัติการณ์

นายดรักเคนมิลเลอร์ยังกล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไปต่อข่าวความคืบหน้าของการผลิตยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท Gilead Sciences ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ