ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 นั้นจะใช้เวลานาน แม้ว่าหลายประเทศได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,741.54 จุด ร่วงลง 162.51 จุด หรือ -2.75%
หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเดินทางร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันถูกกดดัน หลังจากบริษัทลอยด์ ออฟ ลอนดอน เปิดเผยว่าบริษัทอาจต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่การขาดทุนจากการรับประกันภัยและการลงทุนในธุรกิจประกันวินาศภัยทั่วโลกนั้น อาจแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญความเสี่ยงช่วงขาลงเป็นระยะเวลานาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.981 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5 ล้านราย
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ด้วย หลังจากที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านร่วงลงตามดัชนีก่อสร้างบ้าน หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับก่อนการล็อกดาวน์ได้ในระยะเวลา 11 เดือน