ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดหลายแห่งปิดทำการวันหยุด โดยตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค. และความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.47% ปิดที่ 345.18 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,391.28 จุด เพิ่มขึ้น 317.41 จุด หรือ +2.87% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,539.91 จุด เพิ่มขึ้น 95.35 จุด หรือ +2.15%
ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. เนื่องในวัน Spring Bank Holiday
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนหลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะ 79.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 74.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 78.3 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนเม.ย.
ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. และฟื้นตัวเกือบ 38% แล้วจากระดับต่ำสุดของปีนี้
แต่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐ, สหราชอาณาจักร และบางประเทศในเอเชีย ปิดทำการเนื่องในวันหยุด
บรรดานักลงทุนจับตาคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปในวันพุธนี้
หุ้นลุฟท์ฮันซาพุ่งขึ้นกว่า 7% หลังรัฐบาลเยอรมนีอนุมัติอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 9 พันล้านยูโร (9.8 พันล้านดอลลาร์) ให้แก่ลุฟท์ฮันซา และบริษัทเปิดเผยว่าจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทาง 20 แห่งตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.
หุ้น TUI ซึ่งเป็นบริษัทด้านการท่องเที่ยวของเยอรมนี พุ่งขึ้นกว่า 15% โดยได้แรงหนุนจากแผนเริ่มให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญในยุโรปภายในสิ้นเดือนมิ.ย.
หุ้นไบเออร์ พุ่งขึ้นกว่า 7% หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีความคืบหน้าในการยุติคดีฟ้องร้องที่ว่า ยาฆ่าหญ้ายี่ห้อ Roundup ของบริษัททำให้เกิดโรคมะเร็ง