ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุดเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับข่าวการเปิดภาคธุรกิจในหลายประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,548.27 จุด พุ่งขึ้น 553.16 จุด หรือ +2.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,036.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.36 จุด หรือ +1.48% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,412.36 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด หรือ +0.77%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยล่าสุดดีดขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐและประเทศต่างๆทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยอังกฤษเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจบางส่วนในวันที่ 1 มิ.ย.ตามมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟสที่สอง ขณะที่เยอรมนีเตรียมยกเลิกคำเตือนการเดินทางไปยัง 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้
ส่วนในสหรัฐนั้น ขณะนี้ทั้ง 50 รัฐในสหรัฐได้กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยล่าสุดนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสประกาศว่า บริเวณพื้นที่ทานอาหารในร้านภายในศูนย์การค้าและคอร์สเรียนสอนขับรถจะกลับมาเปิดให้บริการได้ทันที ขณะที่สวนน้ำจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันศุกร์นี้โดยจะรับผู้เข้าใช้บริการ 25% ของความจุปกติ ส่วนกิจกรรมกีฬาเพื่อการสันทนาการสำหรับผู้ใหญ่จะกลับมาเปิดได้ตามปกติในวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ การทยอยเปิดเศรษฐกิจของประเทศต่างๆเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.89% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน เพิ่มขึ้น 2.69% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 7.54% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นเจ็ทบลู พุ่งขึ้น 3.17%
ส่วนหุ้นในกลุ่มเรือสำราญนั้น หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ทะยานขึ้น 9.54% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 9.73% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 5.9%
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 5.79% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ทะยานขึ้น 8.47% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 6.9% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 7.15% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 7.26% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 6.45%
หุ้นวอลท์ดิสนีย์ ปรับตัวขึ้น 0.47% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะกลับมาเปิดสวนสนุก "Walt Disney World" ในรัฐฟลอริดาอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค.นี้
หุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะกลับมาเปิดสถานกาสิโน 4 แห่งในลาสเวกัส ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 3.37% หลังจากบริษัทประกาศปลดพนักงาน 6,770 ราย เพื่อลดผลกระทบจากการที่อุตสาหกรรมการบินได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล นอกจากนี้ โบอิ้งยังได้อนุมัติให้พนักงานจำนวน 5,520 รายในสหรัฐลาออกตามโครงการลาออกโดยสมัครใจ
นักลงทุนยังคงจับตาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้รายงานต่อสภาคองเกรสสหรัฐว่า ฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป โดยการดำเนินการดังกล่าวของนายปอมเปโออาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง ซึ่งได้รับการเอื้อประโยชน์ทางการค้ากับสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน