ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,218.79 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด หรือ +1.21%
ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง
นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะใช้เวลานานกว่าคาดในการฟื้นตัว แต่ความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน
หุ้นแกล็กโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ปรับตัวขึ้น 2.12% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการที่จะผลิตสารเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 พันล้านโดสในปีหน้า
หุ้น Cineworld ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 21.43% หลังเปิดเผยว่า จะเปิดทำการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดของบริษัทในเดือนก.ค. และบริษัทยังได้รับการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนยังคงซื้อขายหุ้นอย่างระมัดระวัง ขณะจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะประกาศนโยบายฉบับใหม่ที่จะดำเนินการกับจีนในวันศุกร์นี้ หลังจากที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) มีมติเห็นชอบให้มีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง