ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าการคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว แม้ในขณะนี้สหรัฐกำลังเผชิญกับการประท้วงที่รุนแรงก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเกือบ 4%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,742.65 จุด พุ่งขึ้น 267.63 จุด หรือ +1.05% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,608.38 จุด เพิ่มขึ้น 56.33 จุด หรือ +0.59% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,080.82 จุด เพิ่มขึ้น 25.09 จุด หรือ +0.82%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยนำมาใช้อย่างเข้มงวดในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก โดยความเชื่อมั่นดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมองข้ามเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐขณะนี้ หลังประชาชนจำนวนมากได้ลุกฮือประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจล็อกคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่า ปัจจัยดังกล่าวอาจกระทบตลาด หากการประท้วงยืดเยื้อผ่านช่วงฤดูร้อน จนทำให้รัฐบาลระงับแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4% ขานรับความหวังที่ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.23% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.05% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 6.81% หุ้นฮัลลิเบอร์ตันพุ่งขึ้น 5.8%
หุ้นกลุ่มสายการบินยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.56% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.53% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน บวก 0.92% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 1%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.27% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.14% หุ้นแอปเปิล บวก 0.46% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.5% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 0.35% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.33%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคธุรกิจในนครนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ หลังจากรัฐบาลสั่งปิดเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ISM ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กดีดตัวสู่ระดับ 19.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 4.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนเม.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2563 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.