ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 2 ล้านรายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,281.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.93 จุด หรือ +0.05% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,112.35 จุด ลดลง 10.52 จุด หรือ -0.34% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,615.81 จุด ลดลง 67.10 จุด หรือ -0.69%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.877 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลงต่ำกว่าระดับ 2 ล้านรายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐได้ผ่านพ้นภาวะเลวร้ายที่สุดที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.8 ล้านราย
ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนยังคงมีมุมมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับ ECB ที่ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการฉุกเฉินอีก 6 แสนล้านยูโร เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอเมริกัน แอร์ไลน์ ประกาศเพิ่มตารางเที่ยวบินในเดือนก.ค.ขึ้นเป็น 55% ของกำลังการบินเมื่อปีที่แล้ว ภายหลังจากสหรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 41.1% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.08% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 16.2% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน พุ่งขึ้น 13.73%
ทั้งนี้ สัญญาณบวกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นโบอิ้งปิดตลาดพุ่งขึ้น 6.4%
หุ้นอีเบย์ พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2/2563 เนื่องจากยอดสั่งซื้อสินค้าผู้บริโภคพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นอเมซอน ปรับตัวลง 0.72% หลังจากพนักงานคลังสินค้าจำนวน 3 รายได้ยื่นฟ้องอเมซอนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่า สภาพการทำงานในคลังสินค้าได้ทำให้พวกเขาและครอบครัวมีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. โดยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สกัดการไหลเวียนของสินค้าและบริการในตลาดโลก ส่งผลให้การส่งออกของสหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 16.7% สู่ระดับ 4.94 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.90 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าสินค้าลดลง 13.7% สู่ระดับ 2.007 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2553 และการส่งออกทรุดตัวลง 20.5% สู่ระดับ 1.513 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5%