ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.72% ปิดที่ 366.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,011.98 จุด ลดลง 10.40 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,430.56 จุด ลดลง 56.80 จุด หรือ -0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,341.44 จุด ลดลง 40.97 จุด หรือ -0.64%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากบรรดานักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากที่ตลาดทะยานขึ้นอย่างมากในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากการที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ และ ECB ได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการฉุกเฉินอีก 6 แสนล้านยูโร เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งวงเงินดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5 แสนล้านยูโร
หุ้นดอยซ์แบงก์ พุ่ง 2.02% และหุ้นโซซิเอเต เจเนอราล พุ่งขึ้น 2.51%
แต่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์, กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มเฮลธ์แคร์ นำตลาดร่วงลง โดยหุ้นเดมเลอร์ และหุ้นโฟล์คสวาเกน ร่วง 2.46% และ 1.03% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นซาโนฟี ลบ 0.02%