ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 27,000 จุดเมื่อวันศุกร์ (5 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งทะยานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI ก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันเสาร์นี้ (6 มิ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,110.98 จุด เพิ่มขึ้น 829.16 จุด หรือ +3.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,193.93 จุด เพิ่มขึ้น 81.58 จุด หรือ +2.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,814.08 จุด เพิ่มขึ้น 198.27 จุด หรือ +2.06%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 6.8%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.9% และดัชนี Nasdaq บวกขึ้น 3.3%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก โดยกลุ่มพลังงาน, กลุ่มการเงิน และกลุ่มอุตสาหกรรม นำตลาดปรับตัวขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าการจ้างงานอาจลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 13.3% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5%
การพุ่งขึ้นของตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ค. ถือเป็นการทำสถิติจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐรอบ 81 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2482
ตัวเลขจ้างงานที่ดีกว่าคาดในเดือนพ.ค.นั้นได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และทำการจ้างงานครั้งใหม่ หลังจากที่มีการปลดพนักงานจำนวนมากในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันศุกร์แสดงความยินดีกับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่อ้างว่าเป็นผลงานของเขาที่ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และอัตราการว่างงานลดลง แม้สหรัฐยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ก็ตาม
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น กลุ่มสายการบิน โรงแรม และกาสิโน ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทะยานขึ้นก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันเสาร์ที่ 6 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 8.11%, หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 4.72% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 10.13%
หุ้นโบอิ้ง พุ่ง 11.5% ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ขึ้นมากที่สุด หลังนักลงทุนมีความหวังว่าการเดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้น หลังสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ และสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์เปิดเผยว่า จะเพิ่มตารางเที่ยวบินในสหรัฐในเดือนหน้า
หุ้นทิฟฟานี แอนด์ โค พุ่งขึ้น 6.5% หลังสื่อรายงานว่า LVMH เจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง เดินหน้าทำข้อตกลงเทคโอเวอร์ทิฟฟานี เป็นวงเงิน 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นโนวาแวกซ์ พุ่งขึ้น 3.7% หลังบริษัทประกาศว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐจะมอบเงิน 60 ล้านดอลลาร์แก่โนวาแวกซ์ เพื่อผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ส่วนในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 9-10 มิ.ย.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ