ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นลท.ขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนฯ-เฮลธ์แคร์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลธ์แคร์นำตลาดร่วงลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.32% ปิดที่ 374.12 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,175.52 จุด ลดลง 22.27 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,819.59 จุด ลดลง 28.09 จุด หรือ -0.22% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,472.59 จุด ลดลง 11.71 จุด หรือ -0.18%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากบรรดานักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลธ์แคร์ซึ่งทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง หลังหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ร่วง 2.7% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แอสตร้าเซนเนก้าได้ติดต่อกับ Gilead Sciences ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการกันเพื่อจัดตั้งบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของโลก

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวลงด้วย นำโดยหุ้นบริษัทผลิตชิป อาทิ ASML, ASM International และ STMicroelectronics ซึ่งร่วงลงมากกว่า 4%

แต่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินสูงเกินคาดซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเชลล์, บีพี และโททาล เพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้น หลังโอเปกพลัสตกลงขยายเวลาลดการผลิตน้ำมัน

หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นคาร์นิวัล, ลุฟท์ฮันซา และ CineWorld พุ่งขึ้นอย่างมาก