ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับหนี้สินของบริษัทในภาคเอกชน โดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเฮลธ์แคร์ถ่วงตลาดลงมากที่สุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,472.59 จุด ลดลง 11.71 จุด หรือ -0.18%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มการเงินถ่วงตลาดลงมากที่สุด และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์กดดันตลาดด้วย
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ร่วง 2.7% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แอสตร้าเซนเนก้าได้ติดต่อกับ Gilead Sciences ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการกันเพื่อจัดตั้งบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของโลก
TheCityUK ซึ่งเป็นองค์กรด้านอุตสาหกรรมของอังกฤษเปิดเผยว่า บรรดาบริษัทของอังกฤษไม่สามารถชำระหนี้ 1 ใน 3 ภายใต้โครงการปล่อยกู้ฉุกเฉินของรัฐบาลเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเพิ่มความจำเป็นในการระดมทุนจากนักลงทุนรายใหม่
แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น หลังกลุ่มโอเปกพลัสขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันต่อไปอีก 1 เดือน โดยหุ้นเชลล์และหุ้นบีพีดีดตัวขึ้น
หุ้นบีพี พุ่งขึ้น 1% หลังสื่อรายงานว่า บีพีจะปรับลดจำนวนพนักงานลงราว 15% เพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน