ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะร่วงลงในคืนนี้ หลังจากพุ่งขึ้นวานนี้
ณ เวลา 20.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์อยู่ที่ 27,214 จุด ลบ 313 จุด หรือ 1.14%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับมุมมองเชิงบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากทั้ง 50 รัฐของสหรัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้
ทางด้านสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติช่วงการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
NBER เปิดเผยว่า การทรุดตัวของการจ้างงานและการผลิตในระดับที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐดิ่งลง 4.8% ในไตรมาสแรก ขณะที่คาดว่า GDP ในไตรมาส 2 จะทรุดตัวลงมากกว่า 20%
นอกจากนี้ ตัวเลขอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. และแตะ 13.3% ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี NBER คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบนี้ นอกจากจะมีความรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ยังทำสถิติช่วงเวลาสั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าเขาจะเน้นย้ำว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด