ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 7% เมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) และเป็นการทรุดตัวลงในวันเดียวที่หนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,128.17 จุด ร่วงลง 1,861.82 จุด หรือ -6.90% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,002.10 จุด ลดลง 188.04 จุด หรือ -5.89% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,492.73 จุด ลดลง 527.62 จุด หรือ -5.27%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากข้อมูลของ Worldometer และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานในทิศทางเดียวกันว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุหลัก 2 ล้านรายแล้ว โดยรัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ จำนวน 401,333 ราย และเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกประเทศในโลก นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์กยังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 30,680 ราย
นักวิเคราะห์จากบริษัทคิงส์วิว แอสเซท แมเนจเมนท์ ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า การที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐทะลุหลัก 2 ล้านราย และรายงานคาดการณ์ที่ว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐอาจพุ่งแตะหลัก 2 แสนรายนั้น ได้บังความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวหลังการคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ
ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทรุดตัวลง 16.11%หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 15.51% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ร่วงลง 11.60% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง14.28% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ดิ่งลง 16.46% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 15.30%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 8% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 8.8% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 8.4% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 16.14% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 15.37%
หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนั้น ร่วงลงหลังจากเฟดส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ไปจนถึงปี 2565 โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 10.04% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 8.34% หุ้นซิตี้กรุ๊ป 13.37% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 9.08% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 8.4%
หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 16.4% หลังจากบริษัทสปิริต แอโรซิสเต็มส์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโบอิ้ง ประกาศเลย์ออฟพนักงานจำนวนหนึ่งในสายการผลิตและแผนกสนับสนุนโครงการเครื่องบินโบอิ้ง 737
นอกเหนือจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งแตะระดับ 9.3% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แสดงความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการต่างๆที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และทำให้ตัวเลขการว่างงานพุ่งขึ้นด้วย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.54 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6 ล้านราย
ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลงติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์ในตลาด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน