ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักเก็งกำไรเข้าช้อนซื้อหุ้น หลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ฟื้นตัวขึ้นด้วย แต่ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวก็ยังคงร่วงลงในสัปดาห์นี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,605.54 จุด พุ่งขึ้น 477.37 จุด หรือ +1.90%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,041.31 จุด เพิ่มขึ้น 39.21 จุด หรือ +1.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,588.81 จุด เพิ่มขึ้น 96.08 จุด หรือ +1.01%
แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 5.6%, ดัชนี S&P500 ปิดร่วง 4.8% และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 2.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่คิดเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินและวัสดุปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยบวก 1.36% และ 1.32% ตามลำดับ ส่วนกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.2%
หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้นกว่า 11% ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ขึ้นมากที่สุด
หุ้นอะโดบี อิงค์ พุ่ง 4.9% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสดีเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับซอฟท์แวร์คลาวด์ของบริษัท
สำหรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อวันศุกร์ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.9 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 72.3 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 75.0
ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการเปิดทำการเศรษฐกิจครั้งใหม่ หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ในสัปดาห์นี้ บรรดานักลงทุนจะจับตารอฟังแถลงการณ์จากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนายพาวเวลมีกำหนดที่จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อทางคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 17 มิ.ย.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ทางด้านเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ประกาศยกเลิกการจัดประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮลในปีนี้ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮล ซึ่งมักจัดขึ้นในเดือนส.ค. และมีการเชิญผู้ว่าการธนาคารกลาง และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกเข้าร่วมนั้น ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในการประชุมเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ การยกเลิกการจัดประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮลในปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี หลังจากที่มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2525
อย่างไรก็ดี เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันที่ 27-28 ส.ค.ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy" โดยจะยังคงมีการเชิญผู้ว่าการธนาคารกลาง และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกเข้าร่วมการประชุม และจะมีการถ่ายทอดสดแก่สาธารณชนด้วย