ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก และการเปิดเผยยอดค้าปลีกของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งให้นักลงทุนคลายความวิตกที่ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ระบาดจะใช้เวลานาน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,242.79 จุด เพิ่มขึ้น 178.09 จุด หรือ +2.94%
ตลาดหุ้นลอนดอนฟื้นตัวขึ้นจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และจากรายงานที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มซื้อตราสารหนี้เอกชนผ่านทางตลาดรองตั้งแต่วันอังคารนี้ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
ทั้งนี้ เฟดประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 8.0% หลังจากดิ่งลง 14.7% ในเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคนำตลาดปรับตัวขึ้น และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 2.8% หลังซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้นานประมาณ 1 ปี
หุ้น Cineworld พุ่งขึ้น 1% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดของบริษัทภายในเดือนก.ค.นี้