ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนการเปิดเผยยอดค้าปลีกในอังกฤษที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ค.ซึ่งหนุนความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วหลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,292.60 จุด เพิ่มขึ้น 68.53 จุด หรือ +1.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงรถยนต์ พุ่งขึ้น 12% ในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมเชื้อเพลิง ดีดตัวขึ้น 10.2% ขณะที่ยอดขายสินค้าสำหรับครัวเรือน ทะยานขึ้น 42%
ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปีในเดือนมิ.ย.
GfK เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ระดับ -30 ในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ -36 ในปลายเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้นขานรับยอดค้าปลีกแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น โดยหุ้นเชลล์และหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 1.12% และ 2.10% ตามลำดับ
นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของเงินปอนด์ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย