ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในวันที่ 21 มิ.ย. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกในวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 183,020 ราย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,499.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.53 จุด, +0.09% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,564.85 จุด ลดลง 79.04 จุด, -0.32% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,508.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด, +0.11%
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 8,918,101 ราย และยอดเสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 466,548 ราย
รายงานระบุว่า สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยอยู่ที่ 2,278,373 ราย รองลงมาคือบราซิล 2,278,373 ราย, รัสเซีย 583,879 ราย, อินเดีย 410,461 ราย และสหราชอาณาจัร 305,803 ราย
นอกจากนี้ สหรัฐยังมียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ขอโลก โดยอยู่ที่ 19,959 ราย รองลงมาคือบราซิล 50,591 ราย, สหราชอาณาจักร 42,717 ราย, อิตาลี 34,634 ราย และฝรั่งเศส 29,643 ราย
สำหรับข้อมูลทางเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้
ทั้งนี้ ศูนย์ระดมทุนระหว่างธนาคารแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดธนาคารกลางจีน จะเปิดเผยระดับอัตราดอกเบี้ย LPR ในทุกๆเดือน โดยมาตรการดังกล่าวถือเป็นการปรับปรุงและปฏิรูปกลไกในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR และเป็นความพยายามล่าสุดที่จะปรับลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง