ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนีและในประเทศอื่นๆ ซึ่งทำลายความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.76% ปิดที่ 362.70 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,948.70 จุด ลดลง 30.74 จุด หรือ -0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,262.97 จุด ลดลง 67.79 จุด หรือ -0.55% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,244.62 จุด ลดลง 47.98 จุด หรือ -0.76%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก ขณะที่อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในเยอรมนี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.88 ซึ่งแสดงว่าการติดเชื้อสูงกว่าระดับที่จำเป็นต้องควบคุมโรคในระยะยาว
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มที่อาจจะมีการล็อกดาวน์อีกครั้งนั้น ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจอาจจะฟื้นตัวล่าช้าจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว
นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยุโรปในวันอังคารนี้ ซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมิ.ย.
หุ้นลุฟท์ฮันซา ร่วงลง 3.2% ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีจัดการเจรจากับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดซึ่งขู่ที่จะขัดขวางแผนช่วยเหลือวงเงิน 9 พันล้านยูโร (1 หมื่นล้านดอลลาร์) หากไม่มีการปรับเงื่อนไขข้อตกลง
หุ้นกลุ่มเทเลคอมร่วงลงตามหุ้นดอยซ์ เทเลคอมของเยอรมนี ซึ่งดิ่งลง 4.3% หลังขึ้นเครื่องหมาย XD
หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงหุ้นน้ำมันและก๊าซ ปรับตัวลงด้วย
หุ้นไวร์การ์ดของเยอรมนี ร่วงลงอีก 44% หลังบริษัทตรวจสอบบัญชีไม่สามารถรับรองงบการเงินของบริษัทได้ เนื่องจากทรัพย์สินมูลค่าราว 1.9 พันล้านยูโร (2.13 พันล้านดอลลาร์) สูญหายไป