ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 500 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า
ณ เวลา 21.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,652.40 จุด ลบ 503.70 จุด หรือ 1.93%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในการซื้อขายวันนี้
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 9,380,140 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 480,375 ราย ขณะที่สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวเตือนว่า พื้นที่บางส่วนของสหรัฐกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่
นายแพทย์ฟอซีกล่าวว่า แม้นิวยอร์กมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ลดลง แต่รัฐอื่นๆ กำลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในชุมชน
IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ในวันนี้ โดยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าสถานะทางการคลังของรัฐบาลประเทศต่างๆจะทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการทุ่มงบประมาณเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
IMF ระบุว่า วิกฤตการณ์ในปีนี้แตกต่างจากวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และสร้างความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
รายงานระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการฟื้นตัวจะล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
IMF ยังระบุว่า ธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการสนับสนุนการจ้างงานและภาคธุรกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะหดตัวลง 3%
นอกจากนี้ IMF ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.4% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 5.8%
ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 8.0% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 5.9% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 4.5% ในปีหน้า
ส่วนเศรษฐกิจยูโรโซนคาดว่าจะหดตัว 10.2% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 7.5% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 6.0% ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงประเทศเดียวที่ IMF คาดว่าจะมีการขยายตัวในปีนี้ โดยจะอยู่ที่ระดับ 1.0% แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 1.2% ก่อนที่จะพุ่งขึ้น 8.2% ในปีหน้า