ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทั่วโลกจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบสอง นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ลงอีก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,123.69 จุด ร่วงลง 196.43 จุด หรือ -3.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) เมื่อวานนี้ โดยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าสถานะทางการคลังของรัฐบาลประเทศต่างๆ จะทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการทุ่มงบประมาณเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะหดตัวลง 3%
นอกจากนี้ IMF ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.4% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 5.8%
หุ้นกลุ่มการเงิน, พลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค ร่วงลงหนักที่สุด
หุ้นเครสต์ นิโคลสัน ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างบ้าน ดิ่งลง 18.2% หลังคาดการณ์ว่า กำไรต่อปีก่อนหักภาษีของบริษัทอาจร่วงลง 60-70% เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หุ้นบีพี ร่วง 2.26% และหุ้นเชลล์ ร่วง 4.68%