ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในหลายรัฐ และการประกาศมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้น ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.39% ปิดที่ 358.32 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.64 จุด ลดลง 8.93 จุด หรือ -0.18% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,089.39 จุด ลดลง 88.48 จุด หรือ -0.73% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,159.30 จุด เพิ่มขึ้น 12.16 จุด หรือ +0.20%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงมากที่สุด โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐจำกัดการจ่ายเงินปันผล และระงับการซื้อหุ้นคืน หลังจากการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปีนี้
หุ้นเอชเอสบีซี ลบ 1.1% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 0.52%
ความวิตกเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ฉุดหุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวลงอีก โดยหุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วง 3.4%, หุ้นลุฟท์ฮันซา ร่วงลง 6.2% และหุ้นอีซี่เจ็ต ร่วง 2.8%
หุ้น H&M ของสวีเดน ร่วง 5.5% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ขาดทุนมากกว่าคาด
หุ้นอาดิดาส ร่วง 2.1% โดยถูกกดดันหลังจากบริษัทไนกี้ของสหรัฐรายงานผลประกอบการรายไตรมาสขาดทุนมากเกินคาด