ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นในสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,157.30 จุด ลดลง 83.06 จุด หรือ -1.33%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติรายวันสูงที่สุดในโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ
หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยร่วงลง 2.63% และ 1.01% ตามลำดับ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ได้เพิ่มแนวโน้มที่จะมีการล็อกดาวน์อีกครั้ง และจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
นักวิเคราะห์เตือนว่า นักลงทุนอาจเทขายหุ้นออกมาอีก เนื่องจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงอ่อนแอ โดยข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้ผลิตในสหราชอาณาจักรคาดว่าจะปลดพนักงานออกอีกในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
หุ้นโรลส์-รอยซ์, หุ้นเน็กซ์ และหุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ของอังกฤษ ร่วง 10.02%, 4.61% และ 4.36% ตามลำดับ
หุ้นเน็กซ์ในกลุ่มค้าปลีกของอังกฤษ ร่วง 4.61% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้เป็น "ขาย" และหุ้นเอบี ฟู้ดส์ ลดลง 0.9% หลังถูกลดคำแนะนำลงทุนเป็น "ลงทุนปานกลาง"