ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,285.94 จุด เพิ่มขึ้น 128.64 จุด หรือ +2.09%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านปรับตัวขึ้น อาทิ เพอร์ซิมมอน, บาแรตต์ ดีเวลล็อปเมนต์ และเทย์เลอร์ วิมพีย์ หลังมีรายงานข่าวว่า ผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นจากการจ่ายภาษีอากรสแตมป์ (Stamp Duty) ในการซื้อบ้าน
นักลงทุนได้กลับเข้าซื้อหุ้นจากความหวังว่าเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้างปรับตัวขึ้น 1.7% เนื่องจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า บริษัทก่อสร้างกลับมาขยายตัวในเดือนมิ.ย.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมาตรการล็อกดาวน์
ความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายบอร์ริส จอนห์สัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า เขาจะกำหนดเวลาในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการเริ่มเปิดดำเนินการธุรกิจที่เหลืออยู่หลังจากการคลายล็อกดาวน์
หุ้นธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งโฟกัสการทำธุรกิจในเอเชีย พุ่ง 6.56% และหุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่ง 6.72%