ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะทยอยเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,067.28 จุด เพิ่มขึ้น 177.10 จุด หรือ +0.68% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,169.94 จุด เพิ่มขึ้น 24.62 จุด หรือ +0.78% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,492.50 จุด เพิ่มขึ้น 148.61 จุด หรือ +1.44% นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์สปาร์ตัน แคปิตอล ซิเคียวริตีส์ ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีภาคบริการในเดือนมิ.ย.นั้น ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนมากขึ้น เมื่อนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อคืนนี้ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 8% หรืออาจลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7% ภายในสิ้นปีนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล อิงค์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งอยู่ในหลักทรัพย์จำนวน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 2.33% และ 2.20% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.13% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.92% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1.95%
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.17% หลังจากวอลกรีนส์ประกาศซื้อหุ้น 30% ในบริษัท VillageMD
หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 8.95% หลังมีรายงานว่า อาลีบาบาเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัท Ant Financial Services Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินในเครืออาลีบาบา
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก จำนวน 3,099,095 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก จำนวน 134,030 ราย
ทางด้านมหาวิทยาลัยวอชิงตันเปิดเผยข้อมูลการวิเคราะห์แบบจำลองซึ่งพบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐจะพุ่งขึ้นมากกว่า 208,000 รายภายในวันที่ 1 พ.ย. หากชาวสหรัฐส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย โดยการแพร่ระบาดจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วขณะเข้าใกล้ฤดูใบไม้ร่วง แต่หากชาวสหรัฐจำนวน 95% สวมหน้ากากอนามัย ก็จะช่วยรักษาชีวิตได้ถึง 45,000 ราย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.