ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ทางการสหรัฐอาจประกาศล็อกดาวน์ภาคธุรกิจรอบใหม่หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะทยอยเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,706.09 จุด ลดลง 361.19 จุด หรือ -1.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,152.05 จุด ลดลง 17.89 จุด หรือ -0.56% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,547.75 จุด เพิ่มขึ้น 55.25 จุด หรือ +0.53%
จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐทำให้นักลงทุนหวั่นวิตกว่า รัฐบาลอาจกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก จำนวน 3,159,514 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก จำนวน 134,873 ราย
สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่า ณ วันพุธที่ 8 ก.ค. รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวสูงถึง 11,694 ราย ทำสถิติการติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 44% และผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU เพิ่มขึ้น 34% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากมุมมองที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีได้รับประโยชน์จากการที่ชาวอเมริกันต่างก็อยู่กับบ้าน หลังรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 โดยหุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 3.29% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.99% หุ้นแอปเปิล บวก 0.36% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.7% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 0.38%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.314 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ล้านราย
หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างซึ่งครอบคลุมถึงการลดจำนวนพนักงานลงราว 14%
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ร่วงลง 7.76% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งสวนทางกับในไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่บริษัทมีกำไร นอกจากนี้ วอลกรีนส์ยังประกาศว่าจะปลดพนักงานจำนวน 4 พันราย
หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2.12% หลังจากมีรายงานว่าธนาคารเตรียมปลดพนักงานหลายพันคน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งร่วงลง 1.2% ในเดือนพ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของการนำเข้าแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี
ส่วนในวันนี้ ทางการสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย