ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก อาทิ สหรัฐ นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ลดลงได้ส่งผลกดดันตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,049.62 จุด ร่วงลง 106.54 จุด หรือ -1.73%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดความวิตกว่า อาจจะมีการกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงที่อ่อนแอ โดยหุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ร่วงลง 4.43% และ 3.72% ตามลำดับ
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 11% หลังเปิดเผยว่า บริษัทสูญเสียรายได้ไปราว 3 พันล้านปอนด์ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รายได้จากชั่วโมงบินของเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์นั้น ลดลงอย่างมาก
หุ้นโวดาโฟน ร่วง 2.11% หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะต้องเสียเงินหลายพันล้านปอนด์เพื่อยกเลิกการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย หากรัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้ดำเนินการเช่นนั้น ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างจีนและอังกฤษเพิ่มขึ้น หลังจากจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกงซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษ