ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (10 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าของบริษัท Gilead Sciences Inc ในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,075.3 จุด พุ่งขึ้น 369.21 จุด หรือ +1.44%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,185.04 จุด เพิ่มขึ้น 32.99 จุด หรือ +1.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,617.44 จุด เพิ่มขึ้น 69.69 จุด หรือ +0.66%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1%, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.8% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 4%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ Gilead ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของสหรัฐเปิดเผยว่า จากผลการทดลองพบว่า ยา remdesivir ของ Gilead สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน
ข่าวดังกล่าวหนุนหุ้น Gilead พุ่งขึ้น 2.2%
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ข่าวความคืบหน้าของการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในรัฐทางใต้ของสหรัฐในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นวันเดียวสูงสุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี ขณะที่หลายรัฐในสหรัฐได้ยกเลิกแผนการเปิดเศรษฐกิจแล้ว
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นตามกันก่อนการเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นฤดูการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2563
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป พุ่งขึ้น 5.5%, หุ้นซิตี้กรุ๊ป ทะยานขึ้น 6.5% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 5.5%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นที่ยังปรับตัวล้าหลัง ขณะที่ใกล้ถึงฤดูการรายงานผลประกอบการ
ข้อมูลจาก Refinitiv บ่งชี้ว่า ผลกำไรรวมของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะลดลงมากกว่า 40% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน
หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 10.8% หลังคาร์นิวัลเปิดเผยว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะใช้กองเรือสำราญที่มีขนาดเล็กลงเมื่อกลับมาให้บริการ
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่ง 8.1% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.8% เช่นกันในเดือนพ.ค.
การปรับตัวลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งฉุดอุปสงค์ในตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และลดลง 0.2% เมื่อเทียบรายปี