ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของโกลด์แมน แซคส์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่แอปเปิลชนะคดีต่อสหภาพยุโรป (EU)
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,955.08 จุด บวก 312.49 จุด หรือ 1.17%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้
ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์พุ่งขึ้น 3% หลังธนาคารเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยทางธนาคารสามารถทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส ขณะที่รายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้สูงสุดในรอบ 9 ปี
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 6.26 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.78 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้รวมพุ่งขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์เป็นอันดับ 2 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.75 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ 4.24 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.53 พันล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 2.94 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
ราคาหุ้น Moderna ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากสหรัฐ พุ่งขึ้น 10% ในวันนี้ หลังเปิดเผยว่า วัคซีน mRNA-1273 สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางบริษัทผลิตขึ้นนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วย
Moderna ระบุว่า ผลการทดลองขั้นต้นในการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 กับผู้ป่วย 45 คน พบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดมีการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันในระดับที่แข็งแกร่ง โดยสามารถผลิตแอนติบอดีที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีความสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน
นายทัล แซคส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของบริษัท ระบุว่า ข้อมูลจากการทดลองในเฟสแรก แสดงให้เห็นว่า วัคซีน mRNA-1273 สามารถสร้างการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยทั้ง 45 คน และทางบริษัทจะเริ่มทำการศึกษาวึคซีนดังกล่าวในเฟส 3 ในเดือนนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัคซีนของ Moderna สามารถลดความเสี่ยงของโรคโควิด-19
หุ้นของบริษัทแอปเปิล อิงค์ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังบริษัทประสบชัยชนะในวันนี้ จากการที่ General Court ซึ่งเป็นศาลอุทธรณ์ยุโรป มีคำตัดสินให้คำสั่งของสหภาพยุโรป (EU) ในการบังคับให้แอปเปิลจ่ายภาษีย้อนหลังให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์ ถือเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ยุโรปมีคำวินิจฉัยว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ไม่สามารถพิสูจน์ว่ารัฐบาลไอร์แลนด์ได้ให้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีแก่บริษัทแอปเปิล
ก่อนหน้านี้ EC มีคำตัดสินในเดือนส.ค.2559 ว่า การที่รัฐบาลไอร์แลนด์ให้ผลประโยชน์ทางด้านภาษีแก่บริษัทแอปเปิลถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายภายใต้ข้อบังคับเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือของรัฐใน EU เนื่องจากไอร์แลนด์อนุญาตให้แอปเปิลสามารถจ่ายภาษีน้อยกว่าบริษัทอื่นๆ โดย EC สั่งให้แอปเปิลจ่ายภาษีย้อนหลังให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์เป็นจำนวนเงิน 1.3 หมื่นล้านยูโร
ทางด้านแอปเปิลได้สู้คดีดังกล่าว โดยเข้าให้การต่อศาลอุทธรณ์ยุโรปในวันที่ 18 ก.ย.ปีที่แล้ว โดยระบุว่า คำสั่งของ EU ในปี 2559 ในการบังคับให้แอปเปิลจ่ายภาษีย้อนหลังให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์เป็นจำนวนเงิน 1.3 หมื่นล้านยูโร ถือเป็นคำสั่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และสวนทางกับสามัญสำนึก
นอกจากนี้ แอปเปิลยังกล่าวหา EC ว่า ได้ใช้อำนาจในมือเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายภายในประเทศ รวมทั้งพยายามแก้ไขระบบภาษีระหว่างประเทศ ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อภาคธุรกิจ
แอปเปิลระบุว่า ทางบริษัทได้ชำระภาษีในอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 26% และแอปเปิลนับเป็นบริษัทที่เสียภาษีมากที่สุดในโลก