ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด แม้มีการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และตัวเลขผลประกอบการที่สดใสของมอร์แกน สแตนลีย์
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,755.29 จุด ลบ 114.81 จุด หรือ 0.43%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ล้านราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันนี้ ต่ำกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.31 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในวันนี้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค.
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 16 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%
ก่อนหน้านี้ ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 18.2% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการรวบรวมตัวเลขดังกล่าวในปี 2535
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตยลีย์ระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 1.96 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์