ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และหลังจากมีแนวโน้มว่า ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.75% ปิดที่ 375.51 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,046.92 จุด เพิ่มขึ้น 127.31 จุด หรือ +0.99% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,093.18 จุด เพิ่มขึ้น 23.76 จุด หรือ +0.47% แต่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,261.52 จุด ลดลง 28.78 จุด หรือ -0.46%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า วัคซีนซึ่งบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19
The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ ผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวพบว่า ร่างกายของอาสาสมัครเหล่านี้สามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีการพบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ในอาสาสมัครหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 28 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐ และบริษัท BioNTech ของเยอรมนี ได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 30 ล้านโดสในปีนี้และปีหน้า
ตลาดยังขานรับความเห็นของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่ระบุว่า ผู้นำอียูมีพื้นฐานใหม่ในขณะนี้ในการบรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร (8.58 แสนล้านดอลลาร์) รวมถึงงบประมาณร่วมมูลค่าราว 1.1 ล้านล้านยูโรสำหรับปี 2564-2570 ขณะที่การเจรจาในกรุงบรัสเซลส์ได้เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า เพิ่มขึ้น 1.45%, หุ้น BioNTech พุ่ง 3.12% และหุ้นซาโนฟี บวก 1.15%