ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ทะลุแนว 27,000 ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากหลากหลายปัจจัยที่เข้ามาในตลาด
ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,001.92 จุด บวก 321.15 จุด หรือ 1.20%
ราคาหุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) พุ่งขึ้นเกือบ 4% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ IBM ระบุว่า รายได้อยู่ที่ระดับ 1.812 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.772 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรอยู่ที่ระดับ 2.18 ดอลลาร์/หุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น
ส่วนหุ้นของบริษัทโคคา โคล่า พุ่งขึ้นเกือบ 4% เช่นกัน หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสูงเกินคาดในไตรมาส 2 แม้ว่ารายได้ทรุดตัวลงหนักที่สุดในรอบ 25 ปี แต่ยังคงสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ บริษัทยังแสดงความเชื่อมั่นว่าอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะพุ่งขึ้น หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ โคคา โคล่าเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ลดลง 28% สู่ระดับ 7.2 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรลดลง 33% สู่ระดับ 42 เซนต์/หุ้น แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 40 เซนต์/หุ้น
ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งขานรับการที่สหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ EU ให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์, เทสลา, อินเทล และเวริซอน คอมมิวนิเคชันส์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปีนี้ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี มาตรการจ่ายเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์สำหรับผู้ว่างงานจะสิ้นสุดลงในเดือนนี้