ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในยุโรป แต่ตลาดยังคงถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาด, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงในยูโรโซน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.06% ปิดที่ 373.65 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,211.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,103.39 จุด ลดลง 0.86 จุด หรือ -0.01% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,033.76 จุด ลดลง 3.36 จุดหรือ -0.07%
ตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในยุโรป แต่ตลาดลดช่วงบวกลง เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.416 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย
ตลาดยังถูกถ่วงลง หลังคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลงสู่ระดับ -15 ในเดือนก.ค. จากระดับ -14.7 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ -12
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันโทษฐานที่จีนจารกรรมข้อมูลลับของสหรัฐ ขณะที่จีนก็ได้ออกมาขู่ที่จะตอบโต้สหรัฐเช่นกัน
หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 7.9% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 2 ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่หุ้นเนสเล่ และหุ้นดานอน ปรับตัวขึ้นราว 1.5%