ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเดินทาง หลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศมาตรการกักตัวประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศสเปน หลังจากยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสเปนเพิ่มขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,104.88 จุด ลดลง 18.94 จุด หรือ -0.31%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรปที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่รัฐบาลอังกฤษมีคำสั่งให้ตัวประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศสเปนเป็นเวลา 14 วัน หลังจากยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสเปนเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นอินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ร่วงลง 8% หุ้นไรอันแอร์ ดิ่งลง 3.8% หุ้นอีซี่เจ็ท ร่วงลง 7.9% หุ้น TUI ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติเยอรมนี ดิ่งลงกว่า 11%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นหลังจากราคาทองคำและโลหะเงินทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้นกว่า 7% หุ้นอันโตฟากัสตา ทะยานขึ้นกว่า 3% หุ้นโพลีเมทัล อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้นกว่า 7%
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนได้เข้ายึดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเฉิงตูแล้ว หลังจากที่ได้สั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน พร้อมกับกล่าวหาว่าจีนได้ทำการจารกรรมข้อมูลลับของสหรัฐ
นอกจากนี้ สหรัฐและจีนยังมีความขัดแย้งในหลากหลายประเด็น ได้แก่ การค้า สถานการณ์ในฮ่องกงและทะเลจีนใต้ รวมทั้งที่มาของไวรัสโควิด-19