ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และแถลงการณ์จากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพุธนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,131.46 จุด เพิ่มขึ้น 2.20 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดแทบไม่ขยับ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมเฟด และการหารือรายละเอียดเรื่องมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต
ทั้งนี้ หลังปิดตลาดหุ้นลอนดอนไปแล้วนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25%
เฟดยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไป และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพของราคา
ส่วนการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษได้ถ่วงหุ้นหลายตัวปรับตัวลง
หุ้นแกล็กโซสมิธไคลน์ ร่วง 3.17% หลังเปิดเผยรายได้ลดลงในไตรมาส 2/2563
หุ้นบาร์เคลย์ของ ร่วงลง 6.11% หลังธนาคารตั้งสำรองหนี้เสียที่เกี่ยวกับโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังรายงานรายได้สุทธิ 695 ล้านปอนด์ (765.64 ล้านดอลลาร์) ในช่วงครึ่งปีแรก
แต่หุ้นเน็กซ์ พุ่ง 7.7% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดในแดนบวกได้ หลังบริษัทรายงานยอดขายปลีกร่วงลงน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2